โดย ครูน้ำมนต์ จ้อยรักษา
ศิลปิน นักแสดง Acting Coach ผู้กำกับการแสดง และวิทยากรพิเศษด้านการแสดงทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน
คุณเคยสงสัยไหมครับว่าคนที่เขาเรียนการแสดง (Acting) เสียเงินเสียทอง เสียเวลาเรียนกันไปทำไม
จะไปเป็นดารากันหรือ ไหนจะมีสถาบันต่างๆ ที่สอนในด้านศิลปการแสดงมากมาย คนที่เขาเรียนด้านนี้เรียนจบแล้วเขาจะไปทำงานทำการอะไรกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งเกิดคำถามมากมาย วันนี้เรามาหาคำตอบให้กับปัญหาคาใจเรื่องนี้กันครับ
"แอคติ้ง..เรียนแล้วไปไหน"
โดยทั่วไปมักเข้าใจกันว่าเรียนการแสดงแล้วต้องเป็นดารา หรือนักแสดง แต่ทราบไหมครับว่า สายงานต่างๆ ที่ต่อยอดจากการเรียนการแสดง มีเยอะแยะไปหมด ด้วยสาเหตุที่ว่า การเรียนการแสดง เป็นการฝึกฝนในเรื่องของการสื่อสารอารมณ์ ความรู้สึกผ่านร่างกาย ด้วยวิธีการต่างๆ จึงทำให้เกิดทักษะ และความสามารถ ในการเอาทักษะนั้นนไปใช้ในรูปแบบต่างๆได้
"ต่อยอดอะไรได้บ้าง"
แบบใกล้ที่สุด นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้ว ยังสามารถขยับขยายไปได้อีกครับ เพียงแต่คุณอาจจะต้องเปลี่ยนความสามารถของคุณ จากแสดงเองได้ เป็นถ่ายทอดและทำให้คนอื่นแสดงได้ และนี่คืออาชีพที่เรียกว่า แอคติ้งโคช
คล้ายกับแอคติ้งโคช อีกหนึ่งอาชีพก็คือ แคสติ้ง หากแต่คุณต้องสามารถตีโจทย์จากลูกค้าได้อย่างชัดเจน และมีรสนิยมในการคัดเลือกนักแสดง พร้อมทั้ง ทำเทส พร้อมนำเสนอแก่ลูกค้าได้อย่างถูกใจและถูกจังหวะ
หากคุณมีฝีปากกล้า ปฏิภาณไหวพริบดี ภาษา และการออกเสียงชัดเจน บุคลิกดี นั่นหมายความว่า สายงานด้าน พิธีกร อาจจะเป็นของคุณ
หากคุณฝึกการใช้เสียงในการแสดง อย่างตั้งใจจนสามารถ ออกเสียงได้อย่างน่าฟัง และมีเนื้อเสียงที่งดงาม ไพเราะ สายงานในด้านของ เสียง เช่น ดีเจ หรือผู้ประกาศ รอคุณอยู่
สำหรับบางท่านชอบที่จะศึกษาหาความรู้ในเรื่องของการแสดงให้ลึกซึ้ง และถ่ายทอดออกมาในแบบของนักวิชาการ อย่างที่เรียกว่า นักวิชาการด้านศิลปะการแสดง ก็เก๋ดีไม่หยอก
บางท่านเรียนการแสดงแล้ว สนใจที่จะเป็นผู้เยียวยาจิตใจ ก็ไปต่อยอดในสาขาของการบำบัด ในรูปแบบต่างๆได้ เช่น Drama Therapy ก็ดูจะเป็นที่ต้องการของยุคนี้นะครับ
หรือบางท่านเรียนการแสดงไปเพื่อใช้ในการบริหารงานหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ของตน ก็ได้ผลเป็นอย่างดีเพราะ สื่อสารสิ่งที่ตนเองต้องการได้ชัดเจน ลองคิดภาพในบริษัทที่ มีคนแตกต่างกันมาทำงานรวมกัน ทำอย่างไรถึงจะบริหารได้อย่างยอดเยี่ยมคำตอบคือ ต้องใช้ความเข้าใจเกี่ยวกับคนในการบริหารคน ให้เหมาะสมซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากการวิเคราะห์ลักษณะของตัวละคร เลยสักนิด
หรือแม้กระทั่งหากคุณเป็นพนักงานขายทุกรูปแบบ การแสดงก็จะช่วยให้คุณมี ทักษะในเรื่องของการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าของคุณได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากที่ยกตัวอย่างมาแล้วยังมีอีกนับไม่ถ้วน แต่สังเกตไหมครับว่า การแสดงสามารถปรับเข้ากับเส้นทางต่างๆ หรืออาชีพต่างๆ ได้อย่างดี ทั้งนี้ก็เพราะ การแสดง ถือเป็นการพัฒนา ศักยภาพทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และความคิด ซึ่งเป็นองค์ประกอบของตัวเรา เมื่อเรารู้จักแล้วว่าตัวเรามีอาวุธอะไรอยู่ และอาวุธนั้นใช้อย่างไร เราก็จะสามารถนำอาวุธนั้น มาฝึก มาสร้างสรรค์ ชั้นเชิงในการต่อสู้บนเส้นทางต่างๆได้อย่างง่ายดาย จริงไหมครับ
สำหรับคุณล่ะครับ....
แอคติ้ง..เรียนแล้วไปไหน
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก storylog
เรียบเรียงโดย โรงเรียนสอนเต้น Crystal Studio
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น